|
![]() | |
รหัสสินค้า | : k9-0006 |
ชื่อสินค้า | : กริ่งพระประธานวัดระฆัง รุ่น 100 ปี ปี2515 สร้าง515องค์(ในหลว |
รายละเอียด | กริ่งพระประธานวัดระฆัง 100 ปี มตกาลสมเด็จโต ปี 2515 (ในหลวงเททอง)ทองคำ 26.46 กรัม สร้าง 515 องค์
.....ในหลวงเสด็จเททอง และประกอบพิธีพุทธาภิเษก....เหรียญ ครบ 100 ปี มตกาล สมเด็จโต วัดระฆัง ปี 2515 เนื้อทองคำ หนักประมาณ 13 กรัม พิมพ์ใหญ่ สร้าง 1,000 เหรียญมีพุทธคุณเด่นในด้านเมตตา ค้าขาย และแคล้วคลาดปลอดภัย จนมีประสบการณ์เกิดขึ้นมากมายเรื่อง ราวพิธีกรรมการจัดสร้างวัตถุมงคล อนุสรณ์ ๑๐๐ ปี แห่งมตกาล (กาลแห่งมรณภาพ) ของท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) วัดระฆังโฆษิตาราม ก็ได้กล่าวมาโดยละเอียดแล้วจะเห็นได้ว่า วัตถุมงคล รุ่นนี้จึงถึงพร้อมด้วย พระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ และ พระมหากษัตริยาธิคุณ เพราะ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททองปูชนียวัตถุมงคลอนุสรณ์ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เป็นปฐมมหามงคลราชาฤกษ์ครั้งหนึ่งแล้ว และต่อมา ล้นเกล้าฯทั้งสองพระองค์ ยังเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกทั้ง ทรงจุดเทียนชัย, เทียนนวหร คุณ, เทียนพระวิปัสสี และ ทรงพระสุหร่าย พร้อม ทรงเจิม รวมทั้ง ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ปูชนียวัตถุมงคลรุ่นนี้ครบถ้วนแห่งพิธีกรรมดัง นั้นก่อนจะจบเรื่องราวของวัตถุมงคลรุ่นนี้ ผู้เขียนขอนำเกร็ดความรู้เพิ่มเติมมานำเสนอแก่ท่านผู้อ่านในส่วนที่เกี่ยว กับวัตถุมงคลชุดนี้ดังนี้๑.ศาสตราจารย์สนั่น ศิลากร ศิลปินแห่งชาติซึ่งเป็นศิษย์เอกของ ท่านศาสดาจารย์ศิลป์ พีระศรี (ศาสดาจารย์โคราโด เฟโรจี) ศิลปินชาวอิตาเลียนผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย ศิลปากร โดย ศาสดาจารย์สนั่น เป็นผู้ปั้นรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ขนาดเท่าองค์จริงสำหรับประดิษฐาน ณ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดระฆังโฆสิตาราม ขนาด ๙ นิ้ว และ ๕ นิ้ว นอกจากนี้ ศาสดราจารย์สนั่น ยังเป็นผู้ออกแบบปั้น ต้นแบบเหรียญพระรูปเหมือนสมเด็จโต แล้วมอบให้ กองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ นำไปดำเนินการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกในครั้งนี้ด้วย ๒.นายโต ขำเดช เป็นช่างปั้นพระพุทธรูปฝีมือดีมีผลงานการปั้นพระพุทธปฏิมาประธานมากมายเช่น พระพุทธรูปประธานของ สมเด็จพระเชษฐภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พระพุทธรูปของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ จอมพลถนอม กิตติขจร พระประธานขนาดใหญ่หน้าตัก ๘ วา ที่ห้างวิเศษนิยมเป็นเจ้าภาพถวายวัดที่อำเภอบ้านหมี่จังหวัดลพบุรี และเป็นประติมากรรับซ่อมพระมงคลบพิตร ในพระราชวังโบราณกรุงเก่า ในนามของ กรมศิลปากร และผลงานการปั้นออกแบบ พระพุทธโคดม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ วัดไผ่โรงวัว (วัดโพธาราม) จ.สุพรรณบุรี และการที่ นายโต ขำเดช มาปั้นพระพุทธรูปจำลองพระประธานยิ้มรับฟ้า รุ่น อนุสรณ์ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ในครั้งนี้นั้นเนื่องจากเป็นการขอร้องของ ม.ล.เนื่องพร สุทัศน์ ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดและผูกพันกันมาตั้งแต่เมื่อครั้ง ม.ล.เนื่องพร ยังเป็นเด็กและได้เห็นฝีไม้ลายมือของ นายโต ที่ทำการสร้างสรรค์งานปั้นพระพุทธรูปมาช้านาน จึงได้ขอร้องให้เห็นแก่งานสำคัญที่สุดในชีวิตที่ได้มาปั้นพระพุทธรูปพระ ประธานวัดระฆังที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเททองหล่อ เป็น ปฐมมงคลราชาฤกษ์ดังกล่าว ด้วยเหตุนี้นายโตจึงรับงานนี้ด้วยความเต็มใจเพื่อฝากผลงานสำคัญชิ้นนี้ไว้ใน แผ่นดินและแม้ว่าขณะนั้น (ในปี พ.ศ. ๒๕๑๓-๒๕๑๔) นายโต จะมีอายุมากแล้วแต่ผลงานก็มิได้ทำให้ ม.ล. เนื่องพร ตลอดทั้งคณะกรรมการจัดสร้างรวมถึงผู้เกี่ยวข้อง ผิดหวัง แต่ประการใด ๓.นายช่างเกษม มงคลเจริญ เป็นนายช่างที่ฝากผลงานในรูปแบบพระเครื่อง ขนาดเล็ก เช่น พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ไว้มากมายโดยในรอบระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๓๕ และที่รู้จักกันดีก็คือ พระกริ่งอาจารย์ไสว รุ่นต่าง ๆ และรุ่นที่พระอาจารย์ไสวเป็นเจ้าพิธีทำการผสมเนื้อโลหะและเททองเองเช่น พระกริ่งจอมสุรินทร์ปี ๒๕๑๓, พระกริ่งมหาราชวัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์ท่าเตียน) ปี ๒๕๑๒, พระกริ่งนเรศวรเมืองงายปี พ.ศ. ๒๕๑๒, พระกริ่งศรีนคร, พระกริ่ง จปร.วัดราชบพิธปี ๒๕๑๓, พระกริ่งอวโลกิเตศวรหลวงพ่อเกษม เขมโกปี ๒๕๑๘, พระกริ่งนางพญา, พระกริ่งธรรมราชา, พระกริ่งตากสิน, พระกริ่งลพบุรี, หลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง, พระกริ่งเอกาทศรถ ฯลฯ ก็ได้อาศัยฝีมือนายช่างเกษมมาทำการ ออกแบบและแกะแม่พิมพ์ พร้อมควบคุมการผลิต พระผงพิมพ์สมเด็จ, พระผงพิมพ์รูปเหมือน และ พระกริ่ง-พระรูปเหมือนสมเด็จโต โดยนายช่างเกษมระบุว่ารุ่นนี้ได้ตั้งใจทำเต็มที่เพราะมีความศรัทธาสมเด็จโต เป็นทุนเดิมประกอบกับเคยตั้งใจว่าจะต้องสร้างวัตถุมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับ สมเด็จโต แต่ยังไม่มีโอกาสดังนั้นเมื่อได้รับการติดต่อให้มาร่วมออกแบบ ในรูปแบบพระเครื่องจึงทำการจัดสร้างอย่างตั้งใจด้วยการยึดถือ ความสุจริต ในการทำงานโดยไม่มี การสร้างเสริม หรือ สร้างเพิ่ม แต่อย่างใดและปัจจุบันนายช่างเกษมอายุมากแล้วจึงยุติการรับงาน โดยหันไปปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธศาสนา๔.ในพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล อนุสรณ์ ๑๐๐ ปี สมเด็จโต นั้นหลวง ปู่โต๊ะ (พระราชสังวราภิมณฑน์) ครั้งยังสมณศักดิ์ที่ พระครูวิริยกิตติ ได้รับอาราธนานิมนต์มาร่วมพิธีด้วยอีกรูปได้บอกกับลูกศิษย์ว่าในพิธีมหาพุทธาภิเษกได้นิมิตเห็น สมเด็จพระพุฒาจารย์โตมาเวียนประทักษิณประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่กองวัตถุมงคลทั้งหมดจนครบ ๓ รอบเป็น ที่ฮือฮาแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ของ หลวงปู่โต๊ะ ในสมัยนั้นเป็นอย่างยิ่งพร้อมเช่าบูชาวัตถุมงคลอนุสรณ์ ๑๐๐ ปี รุ่นนี้คนละมากมายหลายแบบตาม ๆ กัน.http://www.pra.kachon.com/pra/detail.asp?id=563ประวัติการจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น 100 ปี แห่งการมรณภาพเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆษิตาราม ปี 2515ปี พุทธศักราช 2515 ที่จะมาถึงในขณะนั้น อันเป็นปีที่การมรณภาพของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เวียนมาบรรจบครบ 100 ปี ประกอบกับวัดระฆังโฆสิตารามเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งก่อตั้งกรุงรัตน โกสินทร์ ถาวรวัตถุและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ชำรุดทรุดโทรมเป็นอันมากเกินกำลังของทางวัดที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์โดยลำพัง ม.ล.เนื่อง พร สุทัศน์ เห็นว่าเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อหาทุนในการบูรณะ ปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุและส่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่ชำรุดทรุดโทรม จึงได้นำโครงการดังกล่าวเสนอต่อพระราชธรรมภาณี รักษาการเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามสมัยนั้น ใช้ชื่อโครงการดังกล่าวว่า โครงการสร้างปูชนียวัตถุเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบ 100 ปี แห่งการมรณภาพของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรํงสี) ณ วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือ พล.ร.อ.จรูญ เฉลิมเตียรณ ผู้บัญชาการทหารเรือขณะนั้นรับผิดชอบเป็นประธานกรรมการดำเนินงาน พระราชธรรมภาณี รักษาการเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นประธานฝายสงฆ์ พล.ร.ท.อุดม สุทัศน์ ณ อยุธยา เจ้ากรมอู่ทหารเรือในขณะนั้น เป็นประธานกรรมการดำเนินการฝ่ายฆราวาส พิธี ในการจัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น อนุสรณ์ 100 ปี แห่งการมรณภาพท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม ประกอบไปด้วยพิธีทั้งทางสงฆ์และพรหมณ์ รวมทั้งสิ้น 3 วาระด้วยกันวาระแรก ประกอบพิธิพุทธาภิเษกทองชนวนและผงมวลสารหมาย กำหนดการวาระแรก วันพฤหัสบดี ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2514 พิธีการในส่วนนี้จัดขึ้นตามแบบขนบธรรมเนียมทั้งพิธีสงฆ์ และ พิธีพราหมณ์ มีการประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญบารมีแห่งเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทำพิธีบูชาฤกษ์ บูชาเทพยดาวาระที่ 2 ประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธปฏิมาจำลองและรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โตหมายกำหนดการวาระที่ 2 วันเสาร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ.2514 พิธิการในวาระที่สองนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จมาเททองเป็นปฐมฤกษ์ตามกำหนดฤกษ์เวลา 15.35 น. และทรงปลูกต้นจันทน์หน้าหอพระไตรปิฎกด้วยวาระที่ 3 ประกอบพิธิพุทธาภิเษกพระพุทธรูป และวัตถุมงคลต่าง ๆหมาย กำหนดการวาระที่ 3 วันพฤหัสบดี ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2515 อันเป็นวันครบรอบ 100 ปี แห่งการมรณภาพของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พิธีพุทธาภิเกจัดขึ้นตามขนบประเพณี ทั้งพิธีพราหมณ์และพิธีสงฆ์ ในวาระที่สามนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นครั้งที่ 2 เพื่อทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก และทรงวางศิลาฤกษ์โรงเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดระฆังโฆสิตารามวัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนั้นประกอบไปด้วย1.พระพุทธรูปจำลององค์พระประธาน ขนาดบูชา (ออกแบบปั้นโดย นายโต ขำเดช)ขนาด 9" เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน 85 องค์ (ตามอายุสมเด็จโต)ขนาด 9" เนื้อโลหะผสม สร้างจำนวน 515 องค์ (ตามปีพ.ศ. ที่ครบ 100ปี)ขนาด 5" เนื้อโลหะผสม สร้างจำนวน 515 องค์ (ตามปีพ.ศ. ที่ครบ 100ปี)2.พระกริ่งจำลององค์พระประธาน (ออกแบบแกะพิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ)เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 515 องค์เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน 5,000 องค์เนื้อเงิน ไม่ทราบจำนวน
|